Install Oracle Client
# yum install php-pear php-devel zlib zlib-devel bc libaio glibc
$ rpm -ivh oracle-instantclient-basic-10.2.0.3-1.x86_64.rpm
$ rpm -ivh oracle-instantclient-devel-10.2.0.3-1.x86_64.rpm
create symbolic link
# ln -s /usr/include/oracle/10.2.0.3/client64 /usr/include/oracle/10.2.0.3/client
# ln -s /usr/lib/oracle/10.2.0.3/client64 /usr/lib/oracle/10.2.0.3/client
Create a file oracle.sh inside /etc/profile.d
export LD_LIBRARY_PATH=/usr/lib/oracle/11.2/client64/lib
and run it
# source /etc/profile.d/oracle.sh
install PDO_OCI
# pecl download PDO_OCI
# tar -xvf PDO_OCI-1.0.tgz
# cd PDO_OCI-1.0
edit file confie.m4 in line 10 insert this for version 10.2.xxx
# vi config.m4
elif test -f $PDO_OCI_DIR/lib/libclntsh.$SHLIB_SUFFIX_NAME.10.2; then
PDO_OCI_VERSION=10.2
และรันคำสั่ง
# phpize
# ./configure --with-php-config=php-config --with-pdo-oci=instantclient,/usr,10.2.0.3
# make
# make install
enable extension โดยสร้างไฟล์ /etc/php.d/pdo_oci.ini
# vi /etc/php.d/pdo_oci.ini
extension=pdo_oci.so
ทดสอบ
# php -i | grep oci
จำได้ผลประมาณนี้
/etc/php.d/pdo_oci.ini,
PDO drivers => oci, odbc, sqlite
OCI8 install ด้วย pear
# pear download pecl/oci8
# tar -xvf oci8-2.0.7.tgz
# cd oci8-2.0.7
แล้วทำการ build install
#phpize
# ./configure --with-oci8=shared,instantclient,/usr/lib/oracle/10.2.0.3/client64/lib,10.2.0.3
# make
# make install
ทำการ extension สร้างไฟล์ /etc/php.d/oci8.ini
# vi /etc/php.d/oci8.ini ใส่ไป
extension=oci8.so
# php -i | grep oci8
เพื่อทดสอบ จะได้ผลประมาณข้อความด้านล่าง
/etc/php.d/oci8.ini,
oci8
oci8.connection_class => no value => no value
oci8.default_prefetch => 100 => 100
oci8.events => Off => Off
oci8.max_persistent => -1 => -1
oci8.old_oci_close_semantics => Off => Off
oci8.persistent_timeout => -1 => -1
oci8.ping_interval => 60 => 60
oci8.privileged_connect => Off => Off
oci8.statement_cache_size => 20 => 20
ทำการ restart apache รอบหนึ่งก็เสร็จสิ้นการลง oracle client ครับ
ที่มา:
http://shiki.me/blog/installing-pdo_oci-and-oci8-php-extensions-on-centos-6-4-64bit/
To share knowledge of computer system configure ,database and software for every body.
ads
วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558
install repcached ( replicated memcached )
ลง lib ที่จำเป็นต้องใช้ก่อน
#yum install libmemcached perl-IO-Socket-INET6 libevent
เลือกเวอร์ชั่นท่ต้ืองการ http://repcached.lab.klab.org/
ดาวโหลด rpm มาแล้วติดตั้งตามขั้นตอน
# rpm -ivh memcached-1.2.8-repcached-2.2-1.el6_.x86_64.rpm
[root@Mem1 software]# telnet 10.5.5.10 10001
Trying 10.77.169.110...
Connected to 10.77.169.110.
Escape character is '^]'.
set test 0 0 4
ตั้งชื่อ test <enter>
STORED แสดงว่าเก็บค่าแล้ว
จากอีกเครืองทดสอบย้อน connect ยอ้นกลับไป port 10001
[root@Mem2 init.d]# telnet 10.5.5.9 10001
Trying 10.77.169.109...
Connected to 10.77.169.109.
Escape character is '^]'.
get test
จะได้ค่าเดียวกัน
VALUE test 0 4
test
END
#yum install libmemcached perl-IO-Socket-INET6 libevent
เลือกเวอร์ชั่นท่ต้ืองการ http://repcached.lab.klab.org/
ดาวโหลด rpm มาแล้วติดตั้งตามขั้นตอน
# rpm -ivh memcached-1.2.8-repcached-2.2-1.el6_.x86_64.rpm
[root@Mem1 software]# telnet 10.5.5.10 10001
Trying 10.77.169.110...
Connected to 10.77.169.110.
Escape character is '^]'.
set test 0 0 4
ตั้งชื่อ test <enter>
STORED แสดงว่าเก็บค่าแล้ว
จากอีกเครืองทดสอบย้อน connect ยอ้นกลับไป port 10001
[root@Mem2 init.d]# telnet 10.5.5.9 10001
Trying 10.77.169.109...
Connected to 10.77.169.109.
Escape character is '^]'.
get test
จะได้ค่าเดียวกัน
VALUE test 0 4
test
END
การ Merg Partition บน Windows
>diskpart
>list disk เพื่อดู disk
>sel disk 0 ชื่อดิสที่โชว์ก่อนนี้
>list partition เพื่อดู partition ของดิสที่เราเลือก
>sel par 2 ( เลือกพาธิชั่นที่รวม unlocated ไว้ที่นี้คือ drive: D+allocated)
>list vol (เพื่อดูชื่อ volume ของแต่ละไดร์ฟ)
>sel vol 2 (ที่นี้คือ volume 2 drive E: ที่เราต้องการขยายแล้วมี unllocated ดิสรวมในพื้นทีนี้แล้ว
>extend คำสั่งขยายเต็มพื้นที่ที่ unllocated ที่เหลือก
>list disk เพื่อดู disk
>sel disk 0 ชื่อดิสที่โชว์ก่อนนี้
>list partition เพื่อดู partition ของดิสที่เราเลือก
>sel par 2 ( เลือกพาธิชั่นที่รวม unlocated ไว้ที่นี้คือ drive: D+allocated)
>list vol (เพื่อดูชื่อ volume ของแต่ละไดร์ฟ)
>sel vol 2 (ที่นี้คือ volume 2 drive E: ที่เราต้องการขยายแล้วมี unllocated ดิสรวมในพื้นทีนี้แล้ว
>extend คำสั่งขยายเต็มพื้นที่ที่ unllocated ที่เหลือก
Convert Disk type from Thin to Thick
Convert Disk type from Thin to Thick
**สำหรับ VMware ESXi version 5.5 ลอง migrate แล้วไม่เวิร์คใช้วิธีนี้แทน
1. shutdown ตัว machine ที่ต้องการจะเปลียน Thin ==> Thick
2. คลิกแทบ Summary ที่ datastore คลิกขวา Browse เข้าไปยัง datastore ที่เครื่องนั้นใช้เข้าไปยังชื่อ sever ที่เราจะทำการเปลียนแปลง
3. หาไฟล์ .vmdk คลิกขวาเลือก Inflate แล้วรอจนกระทั้งเสร็จขั้นตอน
4. login เข้า iLO VMware เพื่อเปิด enable ssh
5. เมื่อทำการ enable แล้วเข้าไปยัง vmfs เครืองที่เราจะทำการแก้ไข
จะเป็น /vmfs/datastore/ชื่อเครืองxxx ประมาณนี้
6. เมื่อเข้าไปจะเห็นไฟล์ ที่เราทำการ Inflate ไปแล้ว จะมี -flate ต่อท้ายชื่อไฟล์เรานั้นเองใช้คำสั่ง
> mkfstools -i T-QB2-ZoneADB2_1.vmdk -d zeroedthick T-QB2-ZoneADB2_1-flate.vmdk
T-QB2-ZoneADB2_1.vmdk ==> ไฟล์เก่า
T-QB2-ZoneADB2_1-flate.vmdk ==> ไฟล์ใหม่ที่ทำให้เป็น thick
เสร็จดูผลที่ resource ได้เลย
**สำหรับ VMware ESXi version 5.5 ลอง migrate แล้วไม่เวิร์คใช้วิธีนี้แทน
1. shutdown ตัว machine ที่ต้องการจะเปลียน Thin ==> Thick
2. คลิกแทบ Summary ที่ datastore คลิกขวา Browse เข้าไปยัง datastore ที่เครื่องนั้นใช้เข้าไปยังชื่อ sever ที่เราจะทำการเปลียนแปลง
3. หาไฟล์ .vmdk คลิกขวาเลือก Inflate แล้วรอจนกระทั้งเสร็จขั้นตอน
4. login เข้า iLO VMware เพื่อเปิด enable ssh
5. เมื่อทำการ enable แล้วเข้าไปยัง vmfs เครืองที่เราจะทำการแก้ไข
จะเป็น /vmfs/datastore/ชื่อเครืองxxx ประมาณนี้
6. เมื่อเข้าไปจะเห็นไฟล์ ที่เราทำการ Inflate ไปแล้ว จะมี -flate ต่อท้ายชื่อไฟล์เรานั้นเองใช้คำสั่ง
> mkfstools -i T-QB2-ZoneADB2_1.vmdk -d zeroedthick T-QB2-ZoneADB2_1-flate.vmdk
T-QB2-ZoneADB2_1.vmdk ==> ไฟล์เก่า
T-QB2-ZoneADB2_1-flate.vmdk ==> ไฟล์ใหม่ที่ทำให้เป็น thick
เสร็จดูผลที่ resource ได้เลย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)